ประวัติความเป็นมา

ในปี พ.ศ. 2527 นายเจต และ นางเขมสิริ ประภามนตรีพงศ์ ได้ตระหนักในความสำคัญของการจัดการศึกษา ว่ามีผลโดยตรงต่อการพัฒนาเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศชาติ และการพัฒนาชาติให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศได้นั้น จำเป็นต้องพัฒนาให้บุคคลในชาติได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ มีโรงเรียนที่จัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ เป็นโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมส่งเสริมบรรยากาศของการเรียนรู้ มีบริเวณร่มรื่น สะอาด สวยงาม มีอาคารเรียนมั่นคงแข็งแรง มีสื่อและอุปกรณ์ต่างๆ ทันสมัยครบถ้วนและเพียงพอ ที่สำคัญจะต้องมีบุคลากรมืออาชีพท่ีมีความรู้ ความสามารถสอดคล้องกับวิชาชีพและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลังจากเตรียมการเบื้องต้น คือ การจัดหาที่ดินและร่างแบบแปลนอาคารเรียนได้แล้ว ในขั้นแรกได้เสนอเรื่องต่อกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนเอกชนในระดับอนุบาลศึกษา การดำเนินการเบื้องต้นในการขออนุญาตเป็นไปด้วยดี กระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนได้ และอนุญาตให้ใช้ชื่อว่า "โรงเรียนอนุบาลประภามนตรี" เมื่อวันที่ 20 เดือนเมษายน พ.ศ. 2527 โดยเปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1 ถึง อนุบาลศึกษาปีที่ 3 มี นางเขมสิริ ประภามนตรีพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้รับใบอนุญาต และครูใหญ่

ในปีการศึกษา 2527 ซึ่งเป็นปีแรกที่เปิดดำเนินการ มีนักเรียนจำนวนรวม 56 คน คุณครู 5 คน พนักงานขับรถรับ-ส่งนักเรียน 2 คน แม่ครัว-คนงาน-ภารโรง 4 คน

ด้วยความเอาใจใส่และวิริยะอุตสาหะในการทำงานอุทิศเวลาให้กับการบริหารโรงเรียนอย่างจริงจังรวมทั้งได้พยายามศึกษาหาประสบการณ์จากทั้งจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองและศึกษาดูงานจากสถาบันต่างๆ จึงได้รับความรู้ และประสบการณ์ในการบริหารโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น ทำให้โรงเรียนเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของชุมชนใกล้เคียง มีผู้ปกครองนำบุตรหลานมาฝากเข้าเรียนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ดังนี้:-

พ.ศ. 2530 จำนวนนักเรียน 210 คน

พ.ศ. 2531 จำนวนนักเรียน 263 คน

พ.ศ. 2532 จำนวนนักเรียน 416 คน

พ.ศ. 2533 จำนวนนักเรียน 539 คน

ในปี พ.ศ. 2534 จำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้น อาคารเรียนและห้องเรียนที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะจัดกิจกรรมโดยสะดวก จึงได้ก่อสร้างอาคารเพื่อให้พร้อมรับกับการเจริญเติบโต และจำนวนนักเรียนที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้นในปี พ.ศ. 2534 ซึ่งสร้างอาคารเรียนหลังใหม่เสร็จเรียบร้อยและจัดชั้นเรียนแล้ว จึงปรากฎว่าห้องเรียนว่างเป็นจำนวน 8 ห้อง

ในปี พ.ศ. 2535 นี้เอง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ มีแผนรับนักเรียนชั้นต่างๆ เพิ่มอีก แต่สถานที่เรียนกำลังก่อสร้าง ยังไม่เสร็จเรียบร้อยจำเป็นต้องหาที่เรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รวม 6 ห้องเรียน

นายเจต ประภามนตรีพงศ์ ได้เสนอให้ใช้สถานที่ของโรงเรียนเป็นสถานที่เรียนแก่นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่ประการใด เป็นเวลา 2 ปีการศึกษา คือ ปีการศึกษา 2535 และ 2536

และในปีต่อมา คือปี พ.ศ. 2536 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้รับความนิยมจากผู้ปกครองและนักเรียนมากขึ้น จึงได้ขอใช้ห้องเรียนจากโรงเรียนประภามนตรีเพิ่มอีก 2 ห้องเรียน 2 ห้องพักครู รวมทั้งสิ้น ใช้ห้องเรียน 8 ห้องเรียน 2 ห้องพักครู และ 1 ห้องพยาบาล เพื่อรองรับจำนวนเด็กนักเรียน 362 คน คณะครูอาจารย์ 15 คน และนักการภารโรง 2 คน โดยใช้ห้องสมุดและห้องประกอบอื่นๆ ร่วมกัน

โรงเรียนประภามนตรี ได้พัฒนาการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และโรงเรียนได้เจริญก้าวหน้ามาโดยลำดับ ผู้ปกครองให้การยอมรับในการจัดการศึกษา และส่งบุตรหลานเข้าเรียนเพิ่มขึ้นทุกปีการศึกษา จนอาคารเรียน อาคารประกอบ และบริเวณโรงเรียนไม่สามารถรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากได้ คณะผู้บริหารจึงได้ดำเนินการจัดสร้างโรงเรียนประภามนตรี ๒ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 99/551 หมู่ 8 หมู่บ้านพนาสนธิ์ซิตี้ ถนนศรีนครินทร์ ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10270 และเปิดให้บริการทางการศึกษาเมื่อปีการศึกษา 2545

และต่อมาโรงเรียนประภามนตรี ๒ ได้เจริญก้าวหน้าจนมีนักเรียนเข้าศึกษาเป็นจำนวนมาก และเป็นที่ยอมรับในการจัดการศึกษาของโรงเรียนจากหน่วยงานต่างๆ จนได้รับรางวัลโรงเรียนรางวัลพระราชทาน ระดับก่อนประถมศึกษาขนาดใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2547 และเพื่อสนองความต้องการของผู้ปกครอง ทางคณะผู้บริหารจึงได้ดำเนินการจัดสร้างโรงเรียนประภามนตรี ๓ สุวรรณภูมิ ขึ้น ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยธนสิทธิ์ ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540

ปัจจุบันโรงเรียนประภามนตรี ประกอบด้วยอาคารเรียน 4 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวนห้องเรียนทั้งสิ้น 25 ห้องเรียน โรงอาหารและห้องประชุมใช้ร่วมกันจำนวน 1 ห้องและยังมีห้องประกอบอื่นๆ เช่น ห้องศูนย์วิทยาการ ห้องสมุด ห้องดนตรีนาฏศิลป์ ห้องจริยศึกษา ห้องพยาบาล ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา ห้องประชุม ห้องสารสนเทศ ห้องคอมพิวเตอร์ 2 ห้อง ห้องเรียน Intensive Course (IC) จำนวน 2 ห้อง ห้องเรียนสีเขียว และลานเอนกประสงค์ เป็นต้น

• 
• 
• 
•